วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ประวัติเกมส์ Red Aler เกมส์สามัญประจำบ้านวัยรุ่นยุคออฟไลน์

ประวัติเกมส์ Red Aler
คอมมานด์ & คองเคอร์: เรด อเลิร์ต (อังกฤษ: Command & Conquer: Red Alert) เป็นเกมแนววางแผนการรบเรียลไทม์ ในซีรีส์ คอมมานด์ & คองเคอร์ พัฒนาโดยบริษัท เวสท์วูด สตูดิโอ วางจำหน่ายในปี 1996 สำหรับเครื่อง พีซี (MS-DOS & วินโดวส์ 95) และพอร์ตลงเครื่องเพลย์สเตชัน ด้วย

เนื้อเรื่องของเกมส์
เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อภายหลังปี 1950 ในที่ที่หนึ่ง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ได้สร้างเครื่องย้อนเวลาที่เรียกว่า Chronosphere ในปี 1946 ก็ได้เดินทางจากรัฐ นิวเม็กซิโก, สหรัฐอเมริกา ย้อนเวลาไปสู่ แลนด์สเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ในปี 1924 เขาได้พบกับ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ กำลังถูกปล่อยตัวจากคุกหลังจากที่เขาทำสนธิสัญญา Munich Putsch ล้มเหลวและได้กำจัดฮิตเลอร์ออกไป ไอน์สไตน์กลับมาในปี 1946 อีกครั้งโดยปณิธานไว้ว่า จะไม่มีสงครามให้แบ่งแยกเยอรมนีและยุโรปก็จะเต็มไปด้วยสันติภาพ
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อไม่มีนาซีที่ก่อสงครามโลก สหภาพโซเวียต นำโดย โจเซฟ สตาลิน ได้พัฒนากองทัพจนแข็งแกร่ง และบุกยุโรปตะวันตกเพื่อสร้างดินแดนใหม่ให้กับรัสเซียและชาวยูเรเชีย (ชนชาติที่มีเชื้อสายเอเชียกับยุโรป ส่วนใหญ่เป็นพวกรัสเซีย) ทำให้ประเทศทางยุโรปตะวันตกทั้งหมดได้ร่วมมือกันเป็นกลุ่มพันธมิตร เพื่อที่จะต่อกรกับโซเวียต และนี่คือจุดเริ่มต้นของสงคราม

มีลักษณะมุมมองจากด้านบน กราฟิกเป็นแบบ 2 มิติ เน้นการวางแผนการรบ โดยแต่ละยูนิตมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกันไป โดยการวางแผนเน้นการใช้สภาพภูมิศาสตร์ และทรัพยากรทางทหารเป็นตัวตัดสินชี้ขาด ในการสัปยุทธ์ (เป็นข้อมูลเก่านะครับ ตอนนี้ ภาค3ได้พัฒนาภาพไปมากแต่ผมก็ยังคงไม่สนใจและเล่นภาค2 เหมือนเดิม) เชื่อว่าหลายคนคงเคยเป็นผู้บัญชาการ ทั้งสู้กับคอม และสู้กับเพื่อนๆมาแล้วแชร์ประสบการณ์กันครับ ผม ชอบเล่นฝั่งโซเวียด ชอบรถยิงจรวดกับ บอลลูน คิรอจ 



วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ปืน โมซิน นากัน Mosin-Nagant ประวัติโดยละเอียด

                   เรียบเรียงโดย ป.ปืน ณ บางซื้อ 

     ภายใต้ร่มเงาจาก จักรวรรดิ รัสเซีย ไล่มา สหภาพโซเวียต มาจนถึง สหพันธรัฐรัสเซีย ในโลกของอาวุธ ไม่ใช่เพียงแค่ยุทโธปกรณ์ แต่หากหมายถึงประวัติศาสตร์ เพราะบนโลกในแทบทุกชาติย่อมก้าวผ่านความขัดแย้ง และลงเอยด้วยสงคราม ชาติที่อยู่รอดได้และเป็นผู้ชนะ มันจะมีสิ่งเกี่ยวโยงกันด้วยอาวุธ Mosin-Nagant เป็นอีกหนึ่งของอาวุธที่มีการใช้งานมาอย่างยาวนาน และยังคงมีใช้งานอยู่ และจะมีใช้งานต่อไป หน้าของประวัติศาสตร์และเรื่องล้วนบันทึกอยู่ในชิ้นส่วนเหล็กและไม้ของมันนั่นเอง
ตอนที่ 1
ถ้า AK คือผู้ปกป้อง รัสเซีย
Mosin-Nagant ก็คือผู้สร้าง รัสเซีย
นับเป็นอาวุธที่เรารู้จักกันดีในสาย รัสเซีย หลายๆคนรู้จักจากหนังเรื่อง enemy at the gate ที่ จู๊ด ลอว์ แสดง เป็นผลเม่นปืนในตำนานแห่งโซเวียต สวาซีลี ไซเซฟ ตลอดทั้งเรื่องพระเอกใช้ Mosin-Nagant ไล่ล่าและเอาตัวรอด มาจากนาซี และเป็นอาวุธปืนเล็กยาวที่มีปืนในตระกูลตัวเองมากมาย
7.62×54mmR 
Berdan Iใช้ระบบ "trapdoor" breechblock บานพับ และต้องขึ้นนกปืนด้วยมือ  และบรรจุกระสุนด้วยมือ นัดต่อนัดไม่มี ซองกระสุน ซึ่งมันสร้างได้ง่ายแต่ ใช้งานค่อนค้างช้า จนมีการปรับปรุง Berdan IIเปลี่ยนมาใช้ระบบ  Bolt action และมีดาบปลายปืน   


กว่าจะมาเป็น Mosin-Nagant

ในยุคของจักรวรรดิรัสเซีย Russian Empire  ก่อนปี 1880 รัสเซีย ทำสงครามกับ จักรวรรดิ ออสโตมาน Ottoman Empire (Russo-Turkish War (1877–78)  รัสเซียใช้ Berdan rifle (Berdan I, Berdan II) ออกแบบโดย Hiram Berdan ชาวอเมริกัน  ในรุ่น Berdan I, ผลิตโดย Colt  USA, .

ต่อมาในรุ่น Berdan II จึงมีการผลิตที่ Tula, Izhevsk, และ Sestroretsk ในช่วงแรกมีการใช้กระสุนขนาด 10.7×58mmR ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็น 
ในสงคราม ตุรกีใช้ปืนคานเหวี่ยง (lever-action repeating rifles) ของ Winchester Model 1866 ขนาด .44 Henry นั้นสร้างความสูญเสียให้กับรัสเซียอย่างหนัก ในการบุกโจมตีต่อทหารรัสเซีย จึงต้องมีการปฏิรูปกองทัพจักรวรรดิใหม่
จนปี 1889 มีปืนสามแบบถูกส่งเข้ามาเพื่อพิจรนา ได้แก่ 1. Captain Sergei Ivanovich Mosin แห่ง Imperial Army submitted ส่งแบบ "3-line" caliber (.30 cal, 7.62mm)
2.Belgian designer Léon Nagant ส่งแบบ "3.5-line" (.35 cal, 9mm) 
 และ 3. Captain Zinoviev ส่งแบบ "3-line" เช่นกัน 
หน่วยการเรียกขนาดลำกล้องในยุคนั้นของแทบนั้นจะเป็นแบบนี้ 
(1 "line" = 1/10 นิ้ว หรือ 2.54 mm., เท่ากับ 3 lines= 7.62 mm).
Captain Sergei Ivanovich Mosin เป็นนายทหารสังกัดเหล่าปืนใหญ่ เกิดเมื่อปี 1849 ที่เมือง Ramon, ในแคว้นVoronezh Governorate ใน Russian Empire เข้าถูกส่งเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารที่ military academy ตั้งแต่อายุ 12และเข้ารับราชการทหารในปี 1867, จากนักไปศึกษาต่อที่ Alexandrovskoye Military High School in Moscow. เมื่อออกจาก Alexandrovsky ในปี 1870, เขาได้เข้าสังกัดทหารปืนใหญ่ และศึกษาต่อในMikhailovskoye Artillery Academy. สำเร็จการศึกษาในปี 1875 จากนั้นทำงานใน Tula Arsenal รับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการ กองเครื่องมือกล( machining

Léon Nagant คือหนึ่งในสองพี่น้องตระกูล Nagant เจ้าของบริษัทออกแบบ และผลิต Fabrique d'armes Émile et Léon Nagant ผลิตเกี่ยวกับอาวุธปืน และ ยานยนต์ ทั้งคู่ก่อตั้งบริษัทในปี 1859 ที่เมือง Liège ประเทศ Belgium (เบลเยี่ยม) และงานอาวุธที่มีชื่อเสียงอีกชิ้นคือ ปืนลูกโม่ Nagant M1895 revolver และผลงานออกแบบรถยนต์ที่ให้ Rochet-Schneider ประเทศฝรั่งเศส 
โดยปืน Nagant M1895 revolverเป็นปืนที่มีกลไกที่น่าสนใจคือเมื่อทำการเหนี่ยวไกยิง กลไกจะพลักลูกโม่ไปชิดท้ายลำกล้อง กระสุนแบบพิเศษที่ ออกแบบให้ลูกกระสุนถูกหุ้มด้วยปลอกกระสุนจะ ซีลแก๊ซและแรงดันไว้ทั้งหมด จึงมีอีกชื่อว่า



เมื่อการทดลองสรุปในปี 1891 การประเมินออกมาว่า ปืนไรเฟิลของ Nagant มีข้อเสียที่สำคัญมีกลไกที่ซับซ้อนมากขึ้นและมีขั้นตอนยุ่งยากในการถอดประกอบ (ซึ่งจำเป็นต้องใช้เครื่องมือพิเศษ) ส่วนปืนของ Mosin ถูกวิจารณ์คุณภาพในการผลิตต่ำไป และรวมถึงวัสดุที่ด้อยคุณภาพ แต่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับการโหวต 14-10 อนุมัติการปืนไรเฟิล Nagant  แต่หัวหน้าของคณะกรรมาธิการท่านนายพล Chagin, สั่งการให้มีการปรับปรุงกันอีกครั้งและทดสอบกันใหม่ ครั้งนี้ Mosin แสดงให้เห็นข้อดีเมื่อปรับปรุงข้อเสียที่เหนือกว่าแบบของ Nagant  

แต่กว่าจะได้ปืนแบบใหม่ก็มีข้อพพาททางกฎหมายเนื่องจากการทดลอง และการส่งอาวุธเข้าแข่งขันกันของกองทัพรัสเซียนั้นเป็นความลับ และการยืม การออกแบบใดๆของคู่แข่งนั้นกระทำได้ Nagant ได้ยื่นเรื่องกระท้วงถึงระเบียบปฏิบัติในข้อนี้ เพราะปืนแบบของMosin มีการนำการออกแบบของ Nagant ไปใช้งาน สุดท้ายทางออกที่ดีที่สุดคือ กองทัพรัสเซีย ยอมจ่าย 200,000 รูเบิล หรือเท่ากับเงินรางวัลที่ผู้ชนะอย่างMosinได้ไป ในรัสเซียไม่มีการระบุชื่อในทางราชการ มีแต่เอกสารในตะวันตกที่เรียกว่า Mosin-Nagant จึงออกมาเป็น The Mosin-Nagant rifle ในปี 1891 และเรียกว่า model 1891. ซึ่งในระบบการจำแนกขนาดลุกกระสุนคือ 3 line rifle
เมื่อเทียบกับ แบบอื่นในยุคเดียวกัน
หลักการทำงานของปืนและรายละเอียดของ The Mosin-Nagant rifle model 1891
ใช้กระสุนขนาด7.62x54 mmR  ลำก้องยาว 730 mm ความยาวรวม 1,232 mm ทำงานด้วยระบบ บรรจุด้วยมือ Bolt action โดยการขัดกลอนที่ลูกเลื่อนและโครงปืน เข็มแทงชนวนแบบกระแทกตรง ลำกล้องมี สันเกลียว 4สันเกลียว 4-groove  อัตราส่วนการหมุนตัวคือ 1:9.5" หรือ 1:10" ระบบเซฟปืนคือระบบนิรภัยเข็มแทงชนวน อยู่ที่ด้านท้ายสุดของลูกเลื่อน ทำงานโดยการ บิดไปทางซ้ายเมื่อขึ้นค้างเข็มแทงฉนวนไว้ที่ตำแหน่งพร้อมยิง ซองกระสุนภายในบรรจุ 5 นัด การบรรจุกระสุนลงในปืนทำได้สองวิธีคือใช้คลิ๊ป กระสุนมีจำนวน5นัดกดลงในซองกระสุน และการบรรจุด้วยมือโดยตรงทีละนัด ศูนย์หน้าแบบแท่ง มีคลอบกันแสง และศูนย์หลังแบบสะพาน ปรับได้100 m ถึง 2,000 m(ถ้าคิดว่ามองเห็นเป้าน่ะ)การปรับระยะจะมีขึ้นบันได้ซ้ายและขวาที่ให้ความละเอียดในแต่ละระยะ
ข้อมูลทางเทคนิค
ระยะยิงหวังผลที่ 500 เมตรถึง 800 เมตร 
การผลิต Model 1891 เริ่มในปี 1892 ที่โรงงาน  Tula Arsenal, Izhevsk Arsenal anและที่ Sestroryetsk Arsenal. มียอดการสั่งผลิตกว่า  500,000 กระบอกและโรงงานผลิตในฝรั่งเศส คือ, Manufacture Nationale d'Armes de Châtellerault

#ตอนที่2

ถูกใช้ในสงครามครั้งแรก คือ Russo-Japanese War ระหว่าง รัสเซียและญี่ปุ่น


ในปี 1889 ซาร์นิโคลัสสั่ง ให้พัฒนาระบบอาวุธให้มีมาตรฐานสูงกว่าในรุโรป โดยให้ขนาด Caliber กระสุนลดลงและกระสุนชนิดไร้ควัน พัฒนาอาวุธใช้กระสุนมีความเร็วเกิน2,000 ฟุตต่อวินาที เป็นผลให้ระยะในการปะทะในการรบบางครั้งกินระยะไกลถึง 2,000เมตร ปืนปืน Mosin กำลังเข้ามาแทนที่ปืน Berdan แล้วในกองทัพรัสเซีย ส่งน Berdan ยังคงมีใช้ในหน่วยที่สำคัญรองลงมาอยู่

ในช่วงก่อน ต้นสงครามโลกครั้งที่1 ด้วยรัสเซียต้องการ M1891 เข้าประจำการเป็นจำนวนมาก การผลิตในประเทศยังไม่เพียงพอ ทั้งต้องมีการผลิตทั้งรุ่นทหารม้า(Drgoon)และรุ่นทหารราบ(Infantry) รัสเซียจึงได้ทำการสั่งผลิต M1891 จาก จาก  Remington Arms รุ่น infantry จำนวน1.5ล้านกระบอก และ อีก 1.8 ล้านกระบอก จาก New England Westinghouse Company ในสหรัฐอเมริกา ในปี  1915 แต่ Remington Arms ผลิต 750,000กระบอก ก็ต้องยุติลงเพราะ รัสเซียเกิดการปฏิวัติ ในเดือนตุลาคม 1917 จึงส่งถึง

รัสเซียแค่ 469,951กระบอกเนื่องจาก สนธิสัญญา Brest-Litovsk สิ้นสุดลง สงครามระหว่างศูนย์กลางอำนาจและรัสเซียจึงเริ่มขึ้น ในทันทีรัฐบาลใหม่ของ Vladimir Leninยกเลิกการจ่ายค่าจ้างแก่ บริษัทอเมริกัน ที่ผลิตให้ ทำให้ Remington และ Westinghouse ล้มละลายจากการตัดสินใจของรัฐบาลคอมมิวนิสต์ เหลือปืนอีก 280,000 ปืนถูกซื้อโดยกองทัพสหรัฐอเมริกา ถูกส่งไปใช้ที่ Murmansk และ Arkhangelsk บางส่วนถูกนำไปใช้งานและฝึก ที่ U.S. National Guard, SATC, และ ROTC โมเดล ของอเมริการเรียกว่า  "U.S. Rifle, 7.62mm, Model of 1916",ถูกใช้งาน. In 1917 เป็นรุ่นที่หาได้ยากเพราะ 50,000 กระบอกถูกส่งไปให้ กองกำลัง Czechoslovak Legions ในSiberia ใช้งาน

ปืน Mosin–Nagantsที่ผลิตโดย  New England Westinghouse and Remington ถูกขายให้ภาคประชาชน โดย The office of the Director of Civilian Marksmanship ตามโครงการ Civilian Marksmanship ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา

Mosin-Nagants จำนวนมากที่ ถูกยึดโดย กองทัพเยอรมันและออสเตรียฮังการี ถูกขายให้กับฟินแลนด์ในปี . 1920

การพัฒนาในช่วง การปฏิวัติรัสเซียแลสงครามกับฟินแลนด์


ในช่วงสงครามกลางเมืองรัสเซีย(Russian Civil War ) ยังคงมีการใช้รุ่นทหารราบและรุ่นทหารม้า

(infantry and dragoon versions) ยังคงมีการผลิตอยู่เรื่อยๆ มีการนำมาใช้งานโดย Bolsheviks, Black Guardsและฝ่ายตรงข้ามคือ White Russians (counter-revolutionary forces). ในปี1924, หลังจาก Red army ได้รับชัยชนะ ได้มีการพิจรณาการออกแบบ ปืน Mosin-Nagants M1891 ใหม่ เพื่อให้มีความคล่องตัวมากขึ้น หลังจากแบบเดิมใช้งานมานาน นำไปสูการพัฒนา Model 91/30  โดยใช้พื้นฐานจากรุ่น Dragoon version ลำกล้องถูกตัดให้สั้นลงไป 3½นิ้ว และการปรับปรุง ตัวปรับศูนย์หลัง ใหม่ เปลี่ยนศูนย์หน้า จากแบบใบมีดเป็นแบบแท่งมีครอบกันแสง และเพิ่มความแน่นขึ้น ปรับปรุงลูกเลื่อนไม่ให้ใช้กับรุ่นก่อนหน้านี้ได้ และเรียกรุ่นนี้ว่า "Cossack dragoon rifles.”หรือ”รุ่นทหารมาคอเซ็ค”

รูป 3M91/30 dragoon

ฟินแลนด์เป็นรัฐในจักรวรรดิรัสเซียจนถึงปี 1917 ฟินแลนด์ มีการใช้ Mosin-Nagants มานาน เพื่อรับใช้กองทัพของราชวงศ์ ซาร์ และใช้ในสงครามการเมืองช่วงสั้นๆ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในรัสเซีย  ฟินแลนด์มีการผลิต Mosin-Nagants โดยใช้เครื่องมือและเครื่องจักรของรัสเซีย เดิม อีกทั้งยังมีการ ยึด M91 และ M91/30 มาใช้งาน ถือเป็นสงครามที่ทั้งสองฝ่ายใช้ Mosin-Nagants ในการรบกัน

ในส่วนของ Mosin-Nagants ของฟินแลนด์ผลิตโดย SAKO, Tikkakoski และ VKT ลำกล้องบางส่วนมีการนำเข้าจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์และเยอรมนี และเรียกว่า M39 rifles มีการใช้โครงปืนแบบเหลียม (Octagonal receivers)แบบปี 1894

Mosin-Nagants ยังถูกนำไปใช้ Republican anti-Franco forces ใน Spanish Civil War สงครามกลางเมืองสเปน Mosin สามารถระบุได้อย่างง่ายดายโดยเป็นรุ่นที่หูกระวินแบบ สอดผ่านบอดี้ปืน (wire sling hangers inserted in the slots) แบบปลอกคอหมา "dog collars"
สงครามโลกครั้งที่2

เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้รุ่น Mosin–Nagant 91/30ในสงคราม ของกองทัพโซเวียต และมีการผลิตออกมาใช้งานหลายล้านกระบอกใช้ในสงครามโลกครั้งที่สองโดยกองทัพ ที่มกองกำลังใหญ่ที่สุดใน เป็นการใช้งานอาวุธปืนรุ่นนี้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

สร้างวีรบุรุษ

 ดาบที่ดีควรคู่กับยอดอัศวิน

Mosin–Nagant Model 1891/30  มีการแก้ไขในปี 1932 ได้มีการดัดแปลงและปรับปรุงเพื่อให้เป็น
ปืน sniper rifle มีการติดตั้งรางและกล้องเล็ง(mounts and scopes ) จากเยอรมัน ต่อมาได้มีการออกแบบและผลิตในประเทศ รุ่น PE, PEM และรุ่นปี 1942 กำลังขยาย  3.5  PU fixed focus scopesมันถูกนำไปใช้งานในการต่อสู้ในเมืองที่สภาพการรบหฤโหด และยาวนาน เช่นใน The Battle of Stalingrad  วีรบุรุษ จึงถือกำเนิดขึ้น Vasili Zaitsev และ Ivan Sidorenko.คือพลซุ่มยิงของ โซเวียตที่ได้รับความนับถืออย่างสูง จากการเด็ดหัวนาซีเยอรมัน และการรบที่ดุเดือด 
สไนเปอร์สาวที่ Canadian newspaperเขียนถึงว่า "the unseen terror of East Prussia"เธอสังหารไปกว่า51หัว(ที่ได้รับการยืนยัน)เธอคือ Roza Shanina ในขณะนั้นเธออายุเพียง18ปี และ เธอถูกยกย่องว่าเป็นวีรตรีแห่งโซเวียต เสียชีวิตในปี1944 ในแนวรบที่ กับเยอรมัน ในวัยเพียง20ปี
ยากลำบากและทุลักทุเล ในอีกซีกหนึ่งของการรบ ฟินแลนด์ที่ยังคงใช้งาน Mosin–Nagant มีชื่อหนึ่งที่ติดโพ สไนเปอร์สายโหดคือ Simo Häyhäเขาสามารถล่าหัว ทหารโซเวียตได้ถึง 505ศพ(บางรายงานอาจจะมีมากกว่านั้น )เขาใช้  Finnish M/28-30 Mosin–Nagant rifle และที่น่าทึ่งกว่านั้นคือ Häyhä ยิงเหยื่อของเขาโดยที่ไม่ใช่กล้องเล็ง แต่ใช่ศูนย์เปิด เดิมๆที่ติดมากับปืน เพราะเขาจะสามารถหมอบได้ต่ำที่สุด ไม่ต้องยกหัวขึ้นมาส่องกล้องเล็ง ทำให้มีโอกาส ถูกสังเกตได้น้อย
การปรับปรุงตามรูปแบบการรบ
ในปี 1935-1936 M 91/30 มีการปรับปรุงอีกครั้งเพื่อลดเวลาในการผลิตลง เมื่อสงครามกับเยอรมันเริ่มขึ้นจึงจำเป็นต้อง มีการผลิตออกมาเป็นจำนวนมากและลดเวลาในการผลิตลง โครงปืนจากเดิมที่ทำแบบเหลี่ยมมีการปรับให้เป็นโค้งกลม และเมื่อมีความรีบเร่งในการผลิต ผิวงานที่ไม่มีความสำคัญต่อความเที่ยงตรงหรือการประกอบจะไม่ได้รับความสำคัญหรือปล่อยให้หยาบแต่อย่างไรก็ตามความแม่นยำก็ยังไม่ได้ลดลงไปเท่าไร
ในปี1938ดีมีการออกแบบ M38ขึ้นมาโดยออกแบบเพื่อให้เป็นรุ่นcarbine.โดยใช้พื้นฐานเดิมจาก M91/30โดยมีการตัดลำกล้องให้สั้นลงไป 8นิ้ว ความยาวลำกล้องอยู่ราวๆ 40นิ้ว M38 ถูกใช้งานในหน่วย ทหารช่าง ทหารสื่อสาร และ ทหารปืนใหญ่  เพื่อใช้ในการป้องกันตัว 
และถัดมารุ่น  Model M44 Mosin โดยพื้นฐานจาก M38และM91/30 แต่มีการติดตั้งดาบปลายปืนแบบพับได้ที่ติดกับตัวปืน เป็นโมเดลที่ออกแบบมาสำหรับการรบในเมืองโดยเฉพาะ มันช่วยในความสะดวกและคล่องตัวมากในการรบติดพัน
 ในช่วงท้ายของสงคราม M91/30 ได้รับการผลิตถึง 17,400,000 กระบอก(สิบเจ็ดล้านสี่แสน)
หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงการใช้งาน Mosin–Nagant.ในตะวันออกและประเทศในกลุ่มหลังม่านเหล็ก ก็หมดไปพร้อมการมาแทนที่ของ SKS และ AK เป็นไปตามยุคสมัยของระบบอาวุธ แต่อย่างไรก็ดี Mosin–Nagant ก็ยังถูกนำไปใช้ในพื้นที่สงครามเย็น เกาหลี เวียดนาม และอัฟกานิสถาน Mosin–Nagant ไม่เพียงแค่ถูกเก็บไว้ในคลังยุทโธปกรณ์ แต่ถูกในไปใช้งานในแนวหน้า
ประเทศที่ได้รับการช่วยเหลือทางทหารจาก โซเวียต จีน และยุโรปตะวันออก ใช่วงสงครามเย็น ยังคงมมีใช้งานอยู่ และรวมถึงประเทศในตะวันออกกลาง ตั้งแต่ยุค70 ถึงยุค90 และในช่วงต้นศตวรรษที่ 21  แม้ว่าหลังการล่มสลายของ สหภาพโซเวียตไปแล้ว ก็ยังมีการใช้งานอยู่ ซึ่ง Mosin–Nagant ,การใช้งานมาแล้ว 120 ปี ถือเป็นปืนที่มีการใช้งานมายาวนานมาก
Mosin–Nagant ของรัสเซีย
Model 1891 Infantry Rifle
Dragoon Rifle
Cossack Rifle
Model 1907 Carbine
Model 1891/30
Model 1938 Carbine
Model 1944 Carbine
Model 1891/59 Carbine
Obrez
OTs-48/OTs-48K
#ตอนที่3
รายละเอียดของ Mosin–Nagant ของรัสเซีย

Model 1891 Infantry Rifle
เป็นอาวุธหลับของทหารราบ  Red Army infantry ตั้งแต่ปี  1891 ถึงปี 1930. ในปี 1891 และ1910 มีการปรับปรุงดังต่อไปนี้
ศูนย์ปืน  ปรับปรุงลูกเลื่อน  ทำให้ไกปืนบางลง ลำกล้องที่คุณภาพสูงขึ้น และ ระบบหูกระวินที่ทำร่องในหมุนได้ดีขึ้น
Dragoon Rifle
สั้นกว่ารุ่นทหารราบ 64 mm (2.5 in) เบากว่า 0.4 kg (0.9 lb)แต่ภายหลังทหารม้าจะนิยมใช้รุ่นM1891 / 30s มากกว่าแต่มีการผลิตน้อยเป็นรุ่นที่หายาก สามรถระบุได้จาก การประทับปีที่ผลิตก่อนปี1930  
Cossack Rifle
ออกแบบมาเพื่อใช้กับหน่วยทหารม้า Cossack (Cossack ทุกนายเป็นทหารม้าอยู่แล้ว) ศูนย์หน้าออกแบบมาเพื่อไม่ต้องใช้กับมีดปลายปืน




Model 1907 Carbine
สั้งกว่า M1891 289 mm (11.4 in) และเบากว่า0.95 kg (2.1 lb) เป็นรุ่นที่ใช้งานได้ดี ในหน่วย หทารม้า ปืนใหญ่ ช่าง และสื่อสาร ผลิตถึงปี 1917 มีจำนวนน้อย
Model 1891/30
เป็นรุ่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดของ Mosin–Nagant มีการผลิต ตั้งแต่ปี 1930 ถึง 1945 ถูกใช้กันแทบทุกหน่วยในกองทัพโซเวียต  และได้มีการดัดแปลงเป็นปืนซุ่มยิง โดยติดตั้ง 4× PE or PEM scope ออกแบบโดย Zeiss design(โซเวียตก๊อปมา)และโซเวียต ได้มีการออแบบเป็นรุ่น 3.5× PU scopes
ตัวที่ดึงคั้นรั้งลูกเลื่อนถูกออกแบบให้ยาวและงอลง"bent bolt"เพื่อให้สามรถทำงานได้ง่ายขึ้น และในรุ่นทหารม้าก็มีการปรับปรุงอีก
ศูนย์หน้ามีการเปลี่ยนให้มี hood กันแสง
ปรับปรุงระบบศูนย์หลังให้ใช้งานสะดวกขึ้นจากระบบขั้นบันได
เปลี่ยนโครงปืนจากแบบเหลี่ยมเป็นแบบกลมเพื่อให้สะดวกในการผลิต ส่วนรุ่นที่เป็นเหลี่ยมเป็นที่นิยมของนักสะสมมาก
Model 1938 Carbine
เป็นรุ่น M1891/30 ตัดสั้น ผลิตที่ Izhevsk arsenal จาก 1939 ถึงปี 1945 และที่ Tula จากปี1940 และปี1944 มีความยาว 40นิ้ว (1,000 mm) โดยออกแบบให้สั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้ในหน่วยรบชั้นสอง มีการผลิตจำนวนน้อยมาก ปืนที่ผลิตในปี1944 เป็นที่ต้องการของนักสะสม เพราะมีการผลิตน้อยที่สุดและจำกัด เพราะมันถูกแทนที่ด้วยM44

Model 1944 Carbine
โดยพื้นฐานจาก M38และM91/30 แต่มีการติดตั้งดาบปลายปืนแบบพับได้ที่ติดกับตัวปืน เป็นโมเดลที่ออกแบบมาสำหรับการรบในเมืองโดยเฉพาะ มันช่วยในความสะดวกและคล่องตัวมากในการรบติดพัน
ผลิตรุ่นทดลองถึง50,000 กระบอกในปี1943 โดย ผลิตที่ Izhevsk arsenal จาก 1943 ถึงปี 1948 และที่ Tula ผลิตปีเดียวคือ 1944 มันเป็นโมเดลที่มีการนำไปใช้งานในกลุ่มประเทศหลังม่านเหล็กอีกหลายประเทศ

Model 1891/59 Carbine
นิยมเรียกว่า "91 / 59sM1891 / 59s เป็นการนำM38มาผลิตอีกครั้งหนึ่งแต่รุ่นนี้ผลิตใน บัลแกเรีย ถูกผลิตในปี1959 จำนวนที่ผลิตมากถึงหนึ่งล้านกระบอกหรืออาจจะสูงถึงสามล้านกระบอก เป็นปืนที่ผลิตเพื่อรับมือการรุกรานจากชาติตะวันตก(ที่ไม่เคยมาถึง )ก่อนหน้าที่ในโซเวียตได้ให้ บัลแกเรียผลิต M91/30s.มาโดย รุ่นที่บัลแกเรียผลิต จะมีการประทับตราเป็นเครื่องหมาย
Obrez

มันไม่มีอะไรมากคือการนำ มาตัดท้ายตัดลำกล้องให้สั้นเพื่อสามารถพกพาได้ เป็นที่นิยมให้หมู่ มาเฟียและ อาชญากร
OTs-48/OTs-48K
The OTs-48/OTs-48K (ОЦ-48К)เป็นปืนที่ออกแบบโดย Central Design Bureauเพื่อใช้ในการ กีฬา ในปี2000 และยังมีหน่วยงานบังคับ กฎหมายนำไปใช้งานถึงปัจจุบัน


#ตอนที่3.2
Mosin–Nagantนอกรัสเซีย
กว่า60ประเทศที่ใช้งานและอีก6กลุ่มติดอาวุธ ใน60ชาตินั้นรวมถึงประเทศไทยที่มีระบุว่าใช้งานในหน่วยทหารพราน ของไทย ในกลุ่มประเทศที่เคยอยู่ภายใต้ทั้ง จักรวรรดิรัสเซีย สหภาพโซเวียต หรือประเทศที่ได้รับ ออเดอร์ในการผลิต เพื่อ

กองทัพพระเจ้าซาร์ หรือแม้แต่การผลิตเพื่อจำหน่ายเชิงพานิช

เอสโตเนีย

 Estonia



 หลังจากสิ้นสุดสงครามประกาศอิสรภาพ ในปี1918-1920 เอสโตเนียมี M1891 อยู่ในคลังถึง120,000กระบอก และที่Kaitseliit, (the Estonian national guard) สั่งนำเข้ามาจาก ฟินน์แลนด์  คือรุ่น Finnish M28/30 riflesอีกจำนวนหนึ่งทั้งนี้ยังมีรุ่นที่เอสโตเนียผลิตใช้เองโดย Estonian Armory มีจำนวนน้อยมากและหายากมาก และยังมีรุ่น Remington made M91

M1933 หรือ 1891/33 เป็น ปลย.มาตรฐานของ Estonian armed forces

M1938: ผลิตต่อจาก M19330จำนวน12,000 กระบอก

KL300: ผลิตเพื่อใช้งานใน Kaitseliit ถูกผลิตขึ้น, 4,025 กระบอก
M1935 "Lühendatud sõjapüss M1935": "shortened rifle M1935" เป็น M1933รุ่นที่ตัดลำกล้องสั้นลงเหลือ 600mm ผลิตขึ้นมา6,770 กระบอก

ตอนที่3.3

ฟินแลนด์  Finland

ฟินแลนด์เป็นอีกประเทศที่มีการผลิต Mosin–Nagant มากและหลายรุ่น โดยผลิตที่

 SAKO, Tikkakoski Oy, หรือ VKT (Valtion Kivääritehdas,

States Rifle factory, หลังจากสงคราม(ฟินแลนด-รัสเซีย) Valtion Metallitehtaat (Valmet), State Metalworks).

โดยฟินแลนด์ใช้กระสุนขนาด  7.62×53mmRที่ปรับปรุงจากกระสุนของรัสเซียคือ Russian 7.62×54mmR แต่สามารถใช้ทดแทนกันได้ แต่กระสุนรุ่นเก่าของกองทัพฟินแลนด์เป็นแบบS-type bullet ขนาด .308 ในปี1936 กองทัพฟินแลนด์ ได้พยายามนำกระสุนแบบใหม่ใช้กับทั้งปืนเล็กยาวและปืนกล ในปี1934 กระสุนแบบ D-166, เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด .310 ก็ถูกใช้กับM/39 Mosin–Nagant ที่ฟินแลนด์ได้ทำการผลิตขึ้นมีดังต่อไปนี้

M/91เมื่อฟินแลนด์ได้รับเอกราชจากรัสเซีย ฟินแลนด์มีM1891จำนวนมากในคลังและรวมถึง Mosin-Nagants ที่ทำการซื้อมาจากประเทศอื่นๆ หมันเกินความต้องการของกองทัพ  กองทัพฟินแลนด์ได้มีการปรับปรุง และกำหนดมาตรฐานใหม่ และตั้งชื่อว่า  M/91 ในปี 1920´ Tikkakoski ได้ทำหารออกแบบ ลำกล้องใหม่ จนเมื่อปี1940

Tikkakoski และ VKT ได้เริ่มทำการผลิต M/91 VKT หยุดการผลิตในปี  1942 เพราะต้องผลิต M/39 rifle แต่ Tikkakoski ยังคงผลิตจนถึงปี 1944  M/91 ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในสงคราม Winter War และ the Continuation War

M/91rv คือรุ่นทหารม้า สร้างตามแบบ Russian Model 1891 Dragoon rifles แต่มีการปรับปรุงช่องหูกระวินแบบ German Karabiner 98a แต่ร่องร้อยหูกระวินแบบรัสเซียยังคงเอาไว้

 

M/24 The "Lotta Rifle," the Model 24 หรือ Model 1891/24 เป็นการปรับปรุง  Mosin–Nagant  ขนานใหญ่ ภายใต้การดำเนินงานของ Finnish Suojeluskunta (Civil Guard) มีการเปลี่ยนแปลงสามจุดหลักๆ คือ


ลำกล้องใหม่จาก SIG (Schweizerische Industrie Gesellschaft) มีเยอรมันเป็นหุ้นส่วน มีการออกแบบหนา เริ่มผลิตปี  1923, จำนวน 3,000ชิ้น เป็นการผลิตแบบดั้งเดิม Model 1891 และมีการผลิตแบบหนา จำนวน 5,000 ชิ้น ดาบปลายปืนสำหรับรุ่นนี้ ถูกสร้างในปีถัดไป SIG เซ็นสัญญาผลิตในปี 1924 และเริ่มผลิตในปี 1926 โดย ผลิตแบบลำกล้องหนา 5,000 ชิ้น และแบบ กลึงลดขนาด stepped  8,000 ชิ้น เยอรมัน ปั้ม “Bohler-Stahl” ไว้ที่ใต้ Chamber ของลำกล้องที่ผลิตให้ฟินแลนด์ M/24ทุกกระบอก จะปั้มตราของ Civil Guard เป็นรูปต้นสนสามก้าน ไว้ที่ เหนือตัว "S." M/24ทุกกระบอกจะมีการปรับปรุง coil spring ที่ trigger pin (แทนแบบแหนบแผ่น) M/24ถูก 


เรียกว่า Lotta's Rifle ("Lottakivääri")เนื่องจาก กองหนุนที่เป็นผู้หญิง ของ Civil Guard  "Lotta Svärd"ที่เป็นผู้ระดมทุนปรับปรุงกว่า10,000กระบอก

M/27 เป็นรุ่นที่กองทัพฟินแลนด์นำM1891 มาrework ใหม่ มีชื่อเล่นว่า  “Pystykorva”  ที่มาของมันมาจากการที่ ฟินแลนด์มี receiver และmagazine ของ M 1891ไว้จำนวนมาก มีการใส่ลำกล้องแบบใหม่ แบบลำกล้องหนา มีการปรับปรุงศูนย์ปืนใหม่ ระบบขัดกลอนโดยการปรับ ค่าพิกัดความเผื่อทำให้ ฟิตขึ้น ตัวบอดี้ไม้ของปืนมีการตัดให้สั้นลงและคว้านร่องรับลำกล้องที่หนาขึ้น ออกแบบดาบปลายปืนใหม่แต่ ทว่าดาบใหม่มันหนักไปในช่วงการทดสอบทหาร นั้นอ่อนล้าจากการฝึกใช้ดาบปลายปืนอย่างชัดเจน ทำให้มีการชะลอตัวในการผลิตไป แต่ในช่วงกลางปี 1927ก็ได้ทำการผลิตขึ้นใช้งานตั้งแต่ปี1927 ถึงปี1940เป็นอาวุธหลักใน  the Winter War ของกองทัพฟินแลนด์

M/27rv เป็นรุ่นตัดสั้นของ M27 เพื่อใช้งานในหน่วย Ratsuväki (literally mounted force).ทหารม้าภูเขา ถูกผลิตออกมา 2217 กระบอก  และก็ถูกใช้งานในหน่วยทหารม้ามากที่สุด สูญหายไปจำนวนมากในสงครามฤดูหนาว เนื่องจากการรบอันหนักหน่วงและดุเดือด เหลือรอดมาแค่  300กระบอก ที่ถูกนำมาซ่อมแซมใหม่ นับเป็นFinnish Mosin–Nagant ที่หายากมาก

M/28 ออกแบบโดยWhite Guard.เป็น Civil Guards Rifles มีความแตกต่างจาก Army's M/27 ทำการผลิตที่ Tikkakoski และ SAKO โดยมีการออกแบบและผลิตลำกล้องแบบเรียบชิ้นเดียวจาก SIG

M/28-30 เป็น รุ่นอัพเกรดของ M / 28 การปรับเปลี่ยนที่เห็นได้ชัดที่สุด โดยการออกแบบศูนย์ใหม่ แบบ  M39 rifle ยกเว้นมาร์กิ้ง"1.5"โดยมีระยะการปรับวิถีกระสุนใหม่ เพื่อกระสุนแบบ

Finnish Lapua D46/D46 bullet ปรับได้ระยะ150 m และ2000 m.

ระบบไกปืนมีการปรับปรุง coil spring ให้มีช่วงไกที่นิ่นนวลและสั้น ระบบซองกระสุนออกแบบให้มีการติดขัดน้อยที่สุดและประทับ "HV"มาจาก"HV" (Häiriö Vapaa = Jam Free) ภายหลังM39มีการออกแบบนี้แต่ไม่มีการทำมาร์คกิ้งนี้

มีรุ่นที่SAKO ผลิตเฉพาะ440 กระบอก เพื่อใช้ในการแข่งขัน 1937 World Shooting Championships in Helsinki.

M/28-30 model, หมายเลข  60974, เป็นปืนที่มีชื่อเสียงตามเจ้านายของมันคือ Simo Häyhä, สไนเปอร์ 505ศพ แห่ง ฟินแลนด์ ปืนกระบอกนี้ใช้ลำกล้องที่มีคุณภาพสูงมาก ถูกจัดแสดงที่ PKarPr (Northern Karelia Brigade) museum จนถึงปี 2002 จากนั้น Finnish Arm นำไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย

M/91-35 เป็นรุ่นที่ Finnish Armyออกแบบเพื่อจะมาแทนที่  M/27 และ the White Guard's M/28 , M/28-30 rifles แต่ถูก The White Guard คัดค้าน เพราะมีปัญหามากไป ซึ่งรุ่นM/39รับหน้าที่ไปแทน

M/39 มีชื่อเล่นว่า "Ukko-Pekka"หลังจากที่ President Pehr Evind Svinhufvud, เข้ามาไกล่เกลี่ยเรื่องการออกแบบอวุธที่จะนำมาใช้ทดแทนของเดิม และสร้างมาตรฐานการผลิตใหม่ โดยที่M/39ได้นำข้อดีของ M28-30 มาใช้งาน มีการออกแบบด้ามจับแบบ semi-pistol grip ที่บอดี้ไม้ หูกระวิน มีการปรับปรุง ต้องการผลิตเพื่อใช้งานในสงครามฤดูหนาว แต่มรแค่10กระบอกที่เสร็จทันสงครามแต่หลังจากนั้นก็ผลิตเพิ่มอีก 96,800 กระบอก

M/30 เป็นรุ่นที่ผลิตโดย  Tikkakoski โดยที่มีคุณภาพสูงมาก ของ Model 1891/30 rifles ในปี 1943 และ 1944 การกำหนดมาตรฐาน M/30, ใช้ชิ้นส่วนจากM 1891/30s จำนวน 125,000 กระบอก ที่ยึดรัสเซียมาจาก Winter war และกว่าอีก 57,000 กระบอกที่ได้ชิ้นส่วนมาจาก เยอรมัน(ผู้บริจากหลัก)

M/56: รุ่นทดลองขนาด  7.62×39mm

M/28-57: รุ่นของ biathlon ขนาด 7.62×54mmR

M/28-76: เป็นรุ่นสำหรับ  marksmanship และ target rifle การฝึกเพื่อแข่งขัน และ การแข่งขัน มีการผลิตแตกต่างกัน  โดย the Finnish Army. ปรับปรุงจาก  M/28-30และ M/39 rifles.

7.62 Tkiv 85:เป็นรุ่นที่ออกแบบให้ทันสมัยโดยใช้พื้นฐานจาก Mosin–Nagant สำหรับให้เป็น marksman/sniper rifleมีการปรับปรุง โครงปืนและการประกอบ ออกแบบและผลิตโดย Valmet และ Finnish Defence Forces (FDF) Asevarikko 1 (Arsenal 1) ในเมือง Kuopio.

 

ตอนที่3.4

Czechoslovakia

VZ91/38 Carbine: หรือ CZECH Model 91/38 Mosin Nagant bolt-action carbine มีความเหมือนกับรุ่นM91/59 มาก แต่เป็นแบบM38 carbine ผลิตด้วยการตัด Model 1891 Infantry, Dragoon, and Cossack rifles แต่ยังมีความครุมเครือในการออกแบบ เพราะมีบางช่วงที่มีดาบปลายปืนแบบM44 แต่ก็ไม่มีตความชัดเจน



VZ54 Sniper Rifle พื้นฐานมากจาก M1891/30 มีการผลิตเพื่อเป็นปืนทางการกีฬา  VZ54 มาพร้อมกับ Czech-made 2.5× magnification scope เป็นกล้องเล็งติดมาจากโรงงาน ศูนย์หลังออกแบบ

เหมือนกับ Mauser และมีสกรูล๊อก และศูนย์หน้าแบบ K98k
VZ54/91 Sniper Rifle เป็นการนำ VZ54 มาปรับปรุง VZ 54/91 มีการออกแบบในเชิงปืนเพื่อการแข่งขันสกียิงเป้าหรือ biathlon ที่สามรถปรับส่วนต่างๆของปืนได้ ปืนรุ่นนี้สามารถใช้ กล้องเล็งของ Soviet manufactured PSO-1 scope ที่ใช้ติดตั้งกับ SVD Dragunov sniper rifle โดยมีรางติดตั้งอุปกรณ์ด้านข้างโครงปืน ส่วนศูนย์ หน้าและหลัง ใช้ตามแบบรุ่น VZ 54

ตอนที่3.5
China
จีน ฃ
Type 53 ได้สิทธ์ในการสร้างโดยใช้แบบ Soviet M1944 carbine เป็นรุ่นที่มีการนำเข้าไปในสหรัฐอเมริกา เป็นจำนวนมาก ทั้งที่สร้างชิ้นส่วนทั้งหมดในจีนและผสมกับชิ้นส่วนจากโซเวียต ซึ่งยากจะหาข้อสรุป ได้ว่าว่ากระบอกไหนจีนเพรียวๆหรือผสมโซเวียต

Type53s จะพบได้ทั้งสองแบบทั้งมีดาบปลายปืนแบบพับและไม่มีดาบปลายปืนติดมาให้ เป็นรุ่นที่ กองทัพปลดแอกประชาชนจีน People's Liberation Army (PLA) ใช้งาน ตั้งแต่ยุค1953ถึง1960 จากนั้น PLA ก็ไปใช้งาน Chinese Type 56 carbine และ Chinese Type 56 assault rifle. แต่ Type53 ถูกนำไปให้ กองอาสารักษาดินแดน People's Militia in China ใช้งานแทน โดยใช้งานจนถึงปี1982   พวกเขาจึงได้ใช้อาววูธที่ทันสมัยกว่า และยังมีแนวร่วมปลดปล่อยเวียตนามใต้ National Liberation Front in South Vietnam ที่นำไปใช้งาน และเขมรแดง Khmer Rougeในยุค ปี 1960และ 1970 รวมถึงในช่วงสงครามเกาหลี ที่จีนส่งไปให้เกาหลีใช้งาน 



Type 53 carbines จำนวนมากถูกส่งไปให้ แอลบาเนีย ในความช่วยเหลือทางทหาร จาก

จีน ในยุค1960  จวบจันกระทั้งปี1990ก็ยังพบได้ในความขัดแย้งในโคโซโว

 

ตอนที่3.6

Hungary
ฮังการี

Mosin–Nagant Model 1948 Infantry Rifle Gyalogsági Puska, 48.M (48.Minta) ผลิตโดยโรงงาน FEG (Fémáru Fegyver és Gepgyar) ในบูดาเปสต์, รุ่นนี้มีคุณภาพสูงมากในแบบM 1891/30 มีการผลิตจาก 1949 อาจจจนถึงปลายปี 1955  พวกเขามี โดดเด่นด้วยผิวงานที่มีคุณภาพสูงและเครื่องหมายของทุกส่วนจะประทับตราด้วย "02" (เป็นตราประทับของฮีงการี่ทุกโมเดล)





Femaru-Fegyver es Gepgyar  (FEG)ผลิตตามแบบ  M1891 sniper version เป็นพื้นฐาน เป็นรุ่นแยกของ 48.M  ในยุค  1950s. มีการส่งไปให้ North Vietnamese Army (NVA) ใช้ในสงครามเวียนาม (Vietnam War)เป็นจำนวนมาก

M/52 เป็นรุ่นที่ก๊อปปี้จาก  Soviet Model 1891/30 sniper rifle. โดยตรง แต่มีข้อแตกต่างกับของโซเวียตคือ




Hungarian M/52 rifle ติดตั้งกล้องเล็ง PU 3.5× optics.

ผิวเหล็กมีการทำผิวที่เรียกว่า ผิวน้ำเงินแข้มแบบ Darkly blued steel และ งานผลิตที่มีคุณภาพสูงมาก

   ประทับตรา  "02" เป็นสัญลักษณ์ของฮังกาเรี่ยน

 

M44 Pattern: ก๊อปปี้ Soviet M44 Carbine มาทั้งดุ้น และประทับตรา "02".ทุกชิ้นส่วนและทุกกระบอก



ตอนที่3.7

Romania

โรมาเนีย

เครื่องหมาย หัวลูกศร ภายในสามเหลี่ยม อยู่ในทุกชิ้นส่วน ของปืน เครื่องหมายตัว


 Soviet M44 Carbine :เป็นรุ่นที่ผลิตในกระเทศตามแบบSoviet M44 Carbine ผลิตตั้งแต่ปี 1953 ถึง 1955.  มีความแตกต่างกับของโซเวียตเพียงเล็กน้อยและยังมีรุ่นโมดิฟายเพื่อใช้งานในภารกิจพิเศษ  Suppressed M44 Pattern โดยการติดตั้ง กล้องเล็ง LPS 4×6° TIP2 telescopic sighและท่อเก็บเสียงที่มีขนาดยาว มีจำนวนน้อยที่ถูกดัดแปลงใช้งานในหน่วย USLA และหน่วย Securitate





M91/30 Pattern:ผลิตตามแบบ M 91/30-ของโซเวียต ผลิตในช่วงปี1955 และจะประทับตรา "INSTRUCTIE"และ"EXERCITIU"


ตอนที่3.8

Poland
โปแลนด์
Main article: Karabinek wz. 91/98/23wz. 91/98/23: ใช้ลุกกระสุนขนาด 7.92mmx57 Mauser กับองกระสุนที่ปรับปรุงขึ้นมาเฉพาะ. ใช้ดาบปลายปืนเดิมๆรัสเซีย



 wz. 91/98/25: รายละเอียดเหมือน wz. 91/98/23 แต่ดาบปลายปืนใช้แบบของ Mauser 1898 bayonets.

wz. 91/98/26: รายละเอียดเหมือน wz. 91/98/23 ดาบปลายปืนใช้แบบของ Mauser 1898 bayonets. ปรับปรุง ให้มีejector /interrupter สองชิ้น แบบ Mauser pattern rifles.

wz. 44: เป็นรุ่นที่ลิตในประเทศตามแบบ Soviet M44 Carbine, ผลิตโดย Polish "circle 11."


POLISH WZ-48 MOSIN NAGANT - MILITARY TRAINER BOLT RIFLE .22 LR MFG 1955 เป็นเวอร์ชั่น .22
ตอนที่3.9
USA
สหรัฐอเมริกา
หลายๆคนอาจจะคิดว่า เฮ้ยมาไง แต่นี้เป็นประเทศแรกๆเลยที่ผลิต Mosin-nagant เลยที่เดียว และเป็นดร่าม่า อีกเรื่องนึงเลยว่าทำไม อเมริกาไม่ค่อยถูกโรคกับ คอมมิวนิสต์ นัก




U.S. Rifle, 7.62 mm, Model of 1916 เนื่องจากในยุคแรกๆของการเริ่มยุคใหม่ของการพัฒนาและแปลนแปลง ระบบอาวุธประจำการของ

จักรวรรดิ รัสเซีย ยังขาดแคลนเครื่องจักรและความล้าสมัย แต่ประกอบด้วยความต้องการเป็นจำนวนมากเพื่อใช้ในกองทัพขนาดใหญ่ จึงได้ทำการสั่งผลิตกับอเมริกา ซึ่งในขณะนั้นมีอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับการผลิตเป็นจำนวนมากๆได้  ในอเมริกาขณะนั้นบริษัทต่างๆสามารถรับจ้างผลิต อาวุธให้กับผู้ว่าจ้างในต่างประเทศได้เพื่อเป็นการนำเม็ดเงินเข้าประเทศ (บริษัทที่ผลิตปืนในอเมริกา ไม่ได้ขึ้นตรงกับรัฐบาล เหมือนกับหลายๆประเทศในยุโรป โดย รัสเซีย ได้ว่าจ้าง Remington Arms ผลิตจำนวน1.5ล้านกระบอก รุ่น M1891 infantry  และ New England Westinghouse ผลิตจำนวน 1.8ล้านกระบอก ในรุ่นอื่นๆแต่การส่งมอบเกิดปัญหาขึ้น เพราะมีการเปลี่ยนแปลงในรัสเซีย สงครามกลางเมือและการเปลี่ยนแปลงการปกครอง สงครามปฏิวัติตุลาคม October Revolution  และการ ลงนามในสนธิสัญญา Brest-Litovsk จบลงด้วยการประกาศสงครามระหว่าง Central Powers ต่อRussia ประกอบกับบอลเชวิคได้ยกเลิกสัญญาที่ เคยลงนามกันไว้กับ รัฐบาลพระเจ้าซาร์ (รวมถึงชักดาบด้วย)จึงทำให้มีปืนค้างอยู่ใน สต๊อกของ New England Westinghouse และ Remington

หลายแสนกระบอก รัฐบาลลุงแซมจึงได้เข้ามาอุ้มทั้งสองบริษัทให้พ้นจากการล้มลาย ในปี1918-1919 กองกำลังจอง สหรัฐ และ อังกฤษ ได้เข้าไปปฏิบัติการในเขตตอนเหนือของรัสเซีย ปืนส่วนใหญ่จึงถูกนำมาใช้งานเพื่อการฝึก ใน US Army. และบางส่วนใช้งานใน US National Guard, SATCและ ROTC units.


U.S. Rifle, 7.62mm, Model of 1916 ถูกส่งไป ให้ กองกำลัง Czechoslovak Legionsที่เมือง Vladivostok ในไซบีเรีย เพื่อคุ้มกันเส้นทางอย่างลับๆ ในปี1920

Mosin-nagant ปืนส่วนใหญ่นั้นถูกขายไปยังภาคประชาชน ตามโครงการเสริมสร้างนักแม่นปืนดำเนินการภายใต้  Director of Civilian Marksmanship เป็นโครงการบุกเบิกนักแม่นปืนภาคประชาชน (Civilian Marksmanship Program.)ในราคา $3.00 จนการเข้ามาของ กระสุนขนาด .30-06 Springfield rimless cartridge ปืนพวกนี้จะมีราคาแพงเพราะปืนที่นำเข้ามาจะมีการประทับตราตามกฎหมาย และสามรถแยกแยะได้

ที่เราสามรถเรียกได้ว่า Mosin-nagant นั้นเป็นปืนที่ใช้งานมายาวนานได้นั้นเป็นเพราะนับจากยังมีกองทัพในบางประเทศบนโลกนี้ยังคงใช้งานอยู่ และถ้านับพลเรือนที่นำมาใช้งานแล้วก็นับได้ว่าเป็นปืนที่คงกระพันอยู่จริงๆ ทั้งนี้เพราะยังมีค่ายหรือสำนักแต่งปืนยังนำมาผลิตใหม่หรือ โมดิฟายปรับปรุงอยู่เป็นเนืองๆ



นับเป็นประวัติศาสตร์หน้านึงในโลกของอาวุธปืน ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายและยาวนานถึง120ปี เป็นอาวุธประจำกายที่นับว่าหลายหลายทั้งการใช้งานและที่มา Mosin-nagant ผ่านเรื่องราวของรัสเซีย มาถึงสามแผ่นดิน!

เรียบเรียงโดย ป.ปืน ณ บางซื้อ เจ้าของเพจ ป.ปืน
ที่มาและอ้างอิง
http://7.62x54r.net/MosinID/MosinID.htm
http://www.mosinnagant.net/ussr/mosin_nagant_markings.asp
http://www.empirearms.com/022012.htm7.62x54r.net/MosinID/MosinRarity.htm
มาร์กิ้ง
https://en.wikipedia.org/wiki/Mosin%E2%80%93Nagant
http://www.mosinnagant.net/default.asp
http://www.thetruthaboutguns.com/2010/09/chris-dumm/gun-review-mosin-nagant/
https://en.wikipedia.org/wiki/Berdan_rifle
https://en.wikipedia.org/wiki/Winchester_rifle
http://www.wargunmods.com/history-of-the-mosin-nagant/

เบลเยี่ยม
http://www.guns.com/2011/10/10/bargain-hunting-mosin-nagant-m9130s-the-hundred-dollar-rifle/
โปแลนด์
http://candrsenal.com/rifle-polish-mosin-nagant-wz-919826/
ฟินแลนด์
http://www.mosinnagant.net/finland/Finn-Mosin-Nagant-M91.asp
http://www.mosinnagant.net/finland/Finn-bayonets.asp
http://www.mosinnagant.net/finland/finlandsm9130rifle.asp
เอสโตเนีย
http://www.mosinnagant.net/global%20mosin%20nagants/TheUseOfTheMosinNagantInEstoniaPartTwo.asp
ฮังการี่
http://milpas.cc/rifles/ZFiles/Rifles%20of/Hungary/Hungary%201948-1990/Mosins/MOSIN-NAGANT%20Model%201948%20Infantry%20Carbine/MOSIN-NAGANT%20Model%201948%20Infantry%20Carbine.htm
http://www.hungariae.com/Mosi48.htm
โรมาเนีย
http://7.62x54r.net/MosinID/MosinRareRomanianM9130.htm