เด็กหญิงซาดาโกะ กับนกกระเรียนพันตัว
"This is our cry. This is our prayer. Peace in the world."
เมื่อความหวังมาำพร้อมกับความเชื่อ.. จึงทำให้เกิดปรากฎการณ์ที่ทุกคนร่วมมือร่วมใจจนหลั่งน้ำตา..
ซาดาโกะ ซะซะกิ (ญี่ปุ่น: 佐々木 禎子 Sasaki Sadako) เป็นเด็กหญิงชาวญี่ปุ่น ที่อาศัยอยู่ใกล้กับสะพานมิซาสะในจังหวัดฮิโระชิมะ ประเทศญี่ปุ่น เธอมีอายุได้เพียงสองปี เมื่อระเบิดนิวเคลียร์ถูกทิ้งลงที่ฮิโระชิมะ เมื่อวันที่ 6 ส.ค. พ.ศ. 2488 แต่เธอรอดมาได้ ซะดะโกะเป็นเด็กที่แข็งแรงรวมทั้งเป็นนักกีฬา ในปี พ.ศ. 2497 เมื่อมีอายุได้ 11 ปี ในขณะที่กำลังซ้อมวิ่งอยู่นั้น เธอรู้สึกมึนหัวแล้วล้มลง หลังเข้ารับการตรวจก็พบว่าเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นหนึ่งในผลสืบเนื่องจากระเบิดนิวเคลียร์
เพื่อนของซะดะโกะได้เล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับตำนานที่ว่า "ถ้าใครพับนกกระดาษได้ครบหนึ่งพันตัว จะได้สิ่งที่ตนต้องการ" ซะดะโกะหวังว่านี่อาจช่วยให้เธอหายป่วยและกับมาวิ่งได้อีกครั้ง เธอใช้เวลา 14 เดือนในโรงพยาบาล และพับนกมากกว่า 1,300 ตัว ก่อนที่จะเสียชีวิตลงด้วยอายุเพียง 12 ปี (ในเรื่องเล่าที่ค่อนข้างแพร่หลายกล่าวว่าเธอพับนกได้แค่ 644 ตัวก่อนจะเสียชีวิต และเพื่อนของเธอพับนกให้เธอจนครบหนึ่งพันตัว และฝังนกเหล่านั้นพร้อมกับร่างของเธอ) ปัจจุบันที่ฐานอนุสาวรีย์ของเธอในบริเวณอนุสรณ์สถานสันติภาพ ฮิโระชิมะ ผู้คนจากทั่วโลกยังคงแวะเวียน นำพวงมาลัยนกกระเรียนกระดาษมาวางเพื่อระลึกถึงเธอ ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากสงคราม
ตำนานนกกระเรียน หรือ "สึรุ"
นกกระเรียนเป็นนกศักดิ์สิทธิ์และสัญลักษณ์ของการมีอายุยืนยาว ความหวัง ความโชคดีและความสุข นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันความเจ็บป่วยได้ด้วย ถ้าใครสามารถพับนกกระเรียนได้ถึง 1,000 ตัว แล้วผู้นั้นจะมีอาการดีขึ้น
หลังจากนั้นซะดะโกะได้พับนกกระดาษพร้อมเขียนคำว่า "สันติภาพ" และเมื่อพับได้ 500 ตัว อาการก็ดีขึ้นและได้รับอนุญาตให้กลับไปอยู่ที่บ้าน แต่ภายหลังอาการของซะดะโกะได้ทรุดหนักลงจนกระทั่งเสียชีวิต เพื่อนของเธอจึงได้ร่วมพับนกจนครบ 1,000 ตัว และใส่ไปในโลงศพ
กระแสและการสร้างอนุเสารีย์
เรื่องราวของ ซาดาโกะ ถูกนำเสนอผ่านหนังสือ และสื่อต่างๆ ที่ดังที่สุดคือผ่านหนังสือ ซาดาโกะ กับนกกระเรียนพันตัว ของ อีลวีนอร์ โคเออร์ ชาวสวีเดน ซึ่งทำให้เกิดกระแสนิยมเรื่องนกกระเรียนพันตัว ในเวลาต่อมา ซึ่งปัจจุบัน อนุสาวรีย์ของซาดาโกะ และนกกระเรียนพันตัว ได้ตั้งอยู่กลางเมืองฮิโรชิมา ซึ่งนอกจากเป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อเรื่องนกกระเรียนพันตัวแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่อยู่ใกล้กับจุดที่ระเบิดนิวเคลียร์ถล่มใส่เมืองฮิโรชิมา เพื่อจะเป็นเครื่องเตือนให้ชาวโลกได้รู้ว่า สงครามไม่เคยปรานีใคร และก่อให้เกิดความเสียหายกับทุกคน แม้ว่าผู้นั้นจะบริสุทธิ์ และไม่ได้รับรู้เรื่องราวของสงครามก็ตาม เหมือนเช่นเด็กน้อยผู้ไร้เดียงสา ซาดาโกะ แห่งเมืองฮิโรชิมา
สงครามคนแก่กับคนแก่ขัดแย้งกันแล้วส่งคนหนุ่มสาวไปตายแทน ทำให้เด็กๆที่ไม่รู้เรื่องต้องซวยไปด้วย
ผม เรืออู กล่าวไว้เอง เศร้า
เพื่อนของซะดะโกะได้เล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับตำนานที่ว่า "ถ้าใครพับนกกระดาษได้ครบหนึ่งพันตัว จะได้สิ่งที่ตนต้องการ" ซะดะโกะหวังว่านี่อาจช่วยให้เธอหายป่วยและกับมาวิ่งได้อีกครั้ง เธอใช้เวลา 14 เดือนในโรงพยาบาล และพับนกมากกว่า 1,300 ตัว ก่อนที่จะเสียชีวิตลงด้วยอายุเพียง 12 ปี (ในเรื่องเล่าที่ค่อนข้างแพร่หลายกล่าวว่าเธอพับนกได้แค่ 644 ตัวก่อนจะเสียชีวิต และเพื่อนของเธอพับนกให้เธอจนครบหนึ่งพันตัว และฝังนกเหล่านั้นพร้อมกับร่างของเธอ) ปัจจุบันที่ฐานอนุสาวรีย์ของเธอในบริเวณอนุสรณ์สถานสันติภาพ ฮิโระชิมะ ผู้คนจากทั่วโลกยังคงแวะเวียน นำพวงมาลัยนกกระเรียนกระดาษมาวางเพื่อระลึกถึงเธอ ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากสงคราม
ตำนานนกกระเรียน หรือ "สึรุ"
นกกระเรียนเป็นนกศักดิ์สิทธิ์และสัญลักษณ์ของการมีอายุยืนยาว ความหวัง ความโชคดีและความสุข นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันความเจ็บป่วยได้ด้วย ถ้าใครสามารถพับนกกระเรียนได้ถึง 1,000 ตัว แล้วผู้นั้นจะมีอาการดีขึ้น
นกกระเรียนเป็นนกศักดิ์สิทธิ์และสัญลักษณ์ของการมีอายุยืนยาว ความหวัง ความโชคดีและความสุข นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันความเจ็บป่วยได้ด้วย ถ้าใครสามารถพับนกกระเรียนได้ถึง 1,000 ตัว แล้วผู้นั้นจะมีอาการดีขึ้น
หลังจากนั้นซะดะโกะได้พับนกกระดาษพร้อมเขียนคำว่า "สันติภาพ" และเมื่อพับได้ 500 ตัว อาการก็ดีขึ้นและได้รับอนุญาตให้กลับไปอยู่ที่บ้าน แต่ภายหลังอาการของซะดะโกะได้ทรุดหนักลงจนกระทั่งเสียชีวิต เพื่อนของเธอจึงได้ร่วมพับนกจนครบ 1,000 ตัว และใส่ไปในโลงศพ
กระแสและการสร้างอนุเสารีย์
กระแสและการสร้างอนุเสารีย์
เรื่องราวของ ซาดาโกะ ถูกนำเสนอผ่านหนังสือ และสื่อต่างๆ ที่ดังที่สุดคือผ่านหนังสือ ซาดาโกะ กับนกกระเรียนพันตัว ของ อีลวีนอร์ โคเออร์ ชาวสวีเดน ซึ่งทำให้เกิดกระแสนิยมเรื่องนกกระเรียนพันตัว ในเวลาต่อมา ซึ่งปัจจุบัน อนุสาวรีย์ของซาดาโกะ และนกกระเรียนพันตัว ได้ตั้งอยู่กลางเมืองฮิโรชิมา ซึ่งนอกจากเป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อเรื่องนกกระเรียนพันตัวแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่อยู่ใกล้กับจุดที่ระเบิดนิวเคลียร์ถล่มใส่เมืองฮิโรชิมา เพื่อจะเป็นเครื่องเตือนให้ชาวโลกได้รู้ว่า สงครามไม่เคยปรานีใคร และก่อให้เกิดความเสียหายกับทุกคน แม้ว่าผู้นั้นจะบริสุทธิ์ และไม่ได้รับรู้เรื่องราวของสงครามก็ตาม เหมือนเช่นเด็กน้อยผู้ไร้เดียงสา ซาดาโกะ แห่งเมืองฮิโรชิมา
สงครามคนแก่กับคนแก่ขัดแย้งกันแล้วส่งคนหนุ่มสาวไปตายแทน ทำให้เด็กๆที่ไม่รู้เรื่องต้องซวยไปด้วย
ผม เรืออู กล่าวไว้เอง เศร้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น