วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

หมดกันนักรบไอซิสที่ห้าวหาญ เมื่อจุดจบไกล้มาถึงนักรบไอซิสต่างปลอมตัวเป็นหญิงพากันหนีออกจากเมือง


หมดกันนักรบไอซิสที่ห้าวหาญ เมื่อจุดจบไกล้มาถึงนักรบไอซิสต่างปลอมตัวเป็นหญิงพากันหนีออกจากเมือง 

เมื่อจุดจบของไอซิสไกล้มาถึง ถูกกองกำลังทั้งอิรักและซีเรีย ไล่บดขยี้อย่างหนักจนต้องเสียเมืองในควบคุมไปหลายเมือง นักรบไอซิส ต่างพากันหนีเอาตัวรวดโดยปลอมตัวเป็นหญิง ถูกจับได้หลายคน 












วันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

วีรกรรมของยุวชนทหารไทย จากเรื่องจริงของเด็กนักเรียนชั้น ม.ปลาย ที่อาสาสมัคร ไปตาย เพื่อชาติ

วีรกรรมครั้งยิ่งใหญ่ของยุวชนทหาร คือ การร่วมมือกับทหารและตำรวจเพื่อต่อต้านการรุกรานจากกองทัพญี่ปุ่นในสงครามมหาเอเชียบูรพาเมื่อวันที่ ๘ ธันวาคมพ.ศ. ๒๔๘๒ ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ วีรกรรมของยุวชนทหารที่โดดเด่นที่สุดในการรบครั้งนั้นคือ วีรกรรมที่สะพานท่านางสังข์ จังหวัดชุมพร
หลวงจรูญประศาสน์ ข้าหลวงจังหวัดชุมพร ได้ติดต่อให้ ร้อยเอกถวิล นิยมเสน ผู้บังคับหน่วยฝึกยุวชนทหาร ชุมพร นำกำลังยุวชนทหารและตำรวจออกไปขัดขวางทหารญี่ปุ่น ที่บริเวณสะพาน “ท่านางสังข์” ทหารประจำการไม่อยู่
การรบได้เป็นไปอย่างดุเดือดจนถึงขั้นสู้กันระยะประชิดตะลุมบอน กองกำลังผสมของไทยสามารถต่อต้านการเคลื่อนที่ของทหารญี่ปุ่นไว้ได้ จนถึงเวลา ๑๖.๐๐ น. จึงได้รับคำสั่งให้หยุดยิงจากทางรัฐบาลไทยให้กองทัพญี่ปุ่นสามารถใช้ดินแดนไทยเป็นทางผ่านได้ ร้อยเอกถวิล นิยมเสน ได้เสียชีวิตในการสู้รบ พร้อมด้วยยุวชนทหารและตำรวจจำนวน ๕ นายบาดเจ็บ ๕ นาย ฝ่ายญี่ปุ่นเสียชีวีตบาดเจ็บกว่า ๒oo นาย
ปัจจุบันรัฐบาลได้กำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันนักศึกษาวิชาทหาร ซึ่งที่อนุสาวรีย์ยุวชนทหาร เชิงสะพานท่านางสังข์ จังหวัดชุมพรนั้น จะมีพิธีวางพวงมาลาและการสวนสนามของนักศึกษาวิชาทหาร ในทุกวันที่ 8 ธันวาคม ของทุกปี เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นด้วย
วีรกรรมของยุวชนทหารได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง ยุวชนทหารเปิดเทอมไปรบ (แนะนำให้หาดูเลยครับ) ถูกอุปกรณ์ประกอบฉากจะไม่ตรงตามประวัติเท่าไหร่ แต่เนื้อเรื่องสุดยอดเป็หนังที่ดีมากๆคับ แปลกใจที่ไม่มีใครนำกลับมาสร้างใหม่


ตัวอย่างภาพยนตร์ ผมแค่ดูตัวอย่างยังน้ำตาซึม

เครดิต ภาพประกอบจาก ยุวชนทหารเปิดเทอมไปรบ
หากผิดพลาดขออภัย

วันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

การ์ตูนจากหนังสือพิมพ์ต่างประเทศในอดีตที่ฝรั่งเศสพยายามยึดสยาม ให้ได้


ภาพเหล่านี้เป็นการเปรียบเทียบของชาติมหาอำนาจกับชาติที่ด้วยกว่า อย่างประเทศสยาม ที่ต้องตกอยู่ในกำมือ ของเหล่าหมาป่า ผู้ล่าอนานิคม ในช่วงสมัยหนึ่ง สยามได้ฟันผ่า และสูญเสียทั้งเลือดเนื้อและแผ่นดินบางส่วนไปให้ ผู้ล่าอนานิคม แต่ยังคง เป็นสยามและเป็นไทยถึงทุกวันนี้ได้ ด้วยปัญหาทางการทางการทูตที่คานอำนาจและรู้จักเป็นไผ่ลู่ลม และกำลังทางกองทัพหาก พูดกันไม่รู้เรื่องจริงๆเราก็พร้อมจะทำสงครามด้วย เพื่อปกป้องชาติบ้านเมือง



การ์ตูนจากหนังสือพิมพ์อังกฤษ The Sketch ในอดีต เป็นภาพทหารฝรั่งเศสที่จู่โจมทหารสยามที่แสดงให้เห็นว่าเป็นรูปไม้ที่ยังถือดาบไม่มีอันตรายใดๆต่อทหารฝรั่งเศสเลย สะท้อนถึงความเหนือกว่าทางเทคโนโลยีของกองทัพฝรั่งเศส ในสมัยนั้น
การ์ตูน Punch Magazine ที่แสดงให้เห็นว่า "หมาป่าฝรั่งเศส" มองข้ามแม่น้ำโขงไปยัง "แกะซึ่งคือสยาม"

ด้วยความพยายาม 108 วิธีก็ยังเอาสยามไม่ลงสักที   ช่วงท้ายๆเกิดสงครามกับฝรั่งเศ่อีกครั้งทั้งทางบกและทางทะเล  
สรุปผลจากการรบไทยเสียทหาร 3 นาย บาดเจ็บ 5 นาย ส่วนฝรั่งเศสเสียชีวิต 110 นาย บาดเจ็บ 250 นาย สุญหาย 58 นาย ถูกจับ 21 นาย ซึ่งไทยสามารถยึดธงชัยเฉลิมพลประดับเหรียญกล้าหาญครัวซ์เดอร์แกร์ไว้ได้ ดังภาพครับ


การลงนามอนุสัญญาสันติภาพไทย-ฝรั่งเศส ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น 11มี.ค.2484

เครดิต https://en.wikipedia.org/wiki/Franco-Siamese_War



วันพุธที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

เกณฑ์นักโทษประหารไปเป็น หน่วยพิเศษ ๖๘๔

เกณฑ์นักโทษประหารไปเป็น หน่วยพิเศษ ๖๘๔
เมื่อ ความตึงเครียดถึงขีดสุดระหว่าง เกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้  ทางรัฐบาลเกาหลีใต้ที่นำโดย ประธานาธิบดีปักจุงฮี ได้ตั้งหน่วยรบพิเศษขึ้นมาหน่วยหนึ่ง ที่โดนลบประวัติถึงตายก็ปฎิเศษได้เต็มปากว่า ทางเกาหลีใต้ไม่ได้ทำ

หน่วยพิเศษ ๖๘๔ ของเกาหลีใต้เกิดขึ้นจากการนำนักโทษประหารทั้งหมด ๓๑ คนมาขับเคี่ยวฝึกให้แกร่งกล้าสมกับภารกิจ "เพื่อชาติ" โดยให้คำมั่นสัญญาว่าสถานภาพของพวกเขาจะถูกเปลี่ยนจากนักโทษเป็นทหารหาญกล้าเปี่ยมทั้งเกียรติยศและกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง หลังจากปลิดชีพประธานาธิบดีคิมอิลซุงของเกาหลีเหนือได้สำเร็จ 
แต่เมื่อเกาหลีใต้มีนโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเปลี่ยนจาก "หักดิบ" ไปสู่การเจรจาทางการทูต บนเวทีนานาชาติ หน่วยพิเศษ ๖๘๔ จึงไร้ความหมายทันทีพวกเค้าไร้ตัวตนในสังคมพวกเค้าไม่มีแม้แต่ชื่อ ของตัวเอง

โศกนาฏกรรม ๒๓ สิงหาคม ๑๙๗๑ เกิดขึ้นเมื่อกลุ่มคน ๒๓ คนพร้อมอาวุธครบมือ ยึดรถประจำทางมุ่งหน้าสู่กรุงโซลเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ตนเอง
แต่รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศภาวะฉุกเฉิน โดยอ้่างว่าชายเหล่านี้เป็นกองโจรคอมมิวนิสต์ที่บุกเข้ามา จนไปถึงทางตันรถบัสประจำทาง ถูกปิดล้อม สุดท้ายแล้วกลุ่มคนเหล่านี้ตัดสินใจระเบิดพลีชีพตัวเองเพื่อหนีความอับอาย ขณะที่มีคนรอดชีวิต ๔ คนถูกตัดสินประหารชีวิตในเวลาต่อมาตายตามเพื่อนๆไป

ขาย ธงชาติ USA ของใหม่มือหนึ่ง ล๊างสต๊อก จากผืนล่ะ 350 บาท หรือผืนล่ะ 200 บาทเท่านั้น สินค้ามีจำนานจำกัด คลิ๊กลิ๊ง หรือคลิ๊กรูปภาพได้เลย https://goo.gl/vY4a6a


หลังจากที่เคยอ้างว่ากลุ่มคนเหล่านี้เป็นคอมมิวนิสต์ติดอาวุธ รัฐบาลยกกรณีนี้ให้อยู่ในแฟ้ม "อาชกรรมพิเศษทางการทหาร" จนกระทั่งในปี ๑๙๗๒ ทนายความคนหนึ่งชูประเด็นเรื่องนี้อีกครั้ง ผลที่ได้คือถูกตั้งข้อหา "เป็นภัยต่อความมั่นคง" ต้องไปนอนในคุก ๓ ปี ตามระเบียบ

ประธานาธิบดีปักจุงฮี แห่งเกาหลีใต้นั้นเป็นที่ร่ำลือในความเป็นเผด็จการ ด้วยปูมหลังทางการทหาร ไม่ว่าจะเป็นหน่วยรบเกาหลี (The Republic of Korea Army หรือ ROK)  ส่วนตำแหน่งที่ได้ก็มาจากการรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลเลือกตั้งของซิงมัน รี (Syngman Rhee) ในเดือน พฤษภาคม ปี ๑๙๖๑
ส่วนคิมอิลซุง ผู้นำสูงสุดคนแรกของเกาหลีเหนือ ผู้ชูอุดมการณ์สังคมนิยม นับตั้งแต่แบ่งแยกดินแดนและปกครองด้วยระบบคอมมิวนิสต์ ผู้เป็นเป้าสังหารกลับอยู่นานและถึงแก่กรรมในปี ๑๙๙๔
และเหตุการณ์ได้ถูกนำไปสร้างภาพยนตร์เรื่อง SILMIDO ของเกาหลีใต้
ตัวอย่างภาพยนตร์


ขาย ธงชาติ USA ของใหม่มือหนึ่ง ล๊างสต๊อก จากผืนล่ะ 350 บาท หรือผืนล่ะ 200 บาทเท่านั้น สินค้ามีจำนานจำกัด คลิ๊กลิ๊ง หรือคลิ๊กรูปภาพได้เลย https://goo.gl/vY4a6a


วันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

อาณาจักรอยุธยา รายชื่อราชวงศ์และรายชื่อ กษัตริย์ผู้ปกครอง อาณาจักรที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองถึงขีดสุด


อาณาจักรอยุธยา เป็นอาณาจักรของชนชาติไทยในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วง พ.ศ. 1893 ถึง พ.ศ. 2310 มีกรุงศรีอยุธยาเป็นศูนย์กลางอำนาจหรือราชธานี อาณาจักรอยุธยานับว่าเจริญรุ่งเรืองจนอาจถือได้ว่าเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองมั่งคั่งที่สุดในภูมิภาคสุวรรณภูมิ ทั้งยังมีความสัมพันธ์ทางการค้ากับหลายชาติ จนถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางการค้าในระดับนานาชาติ เช่น จีน เวียดนาม อินเดีย ญี่ปุ่น เปอร์เซีย รวมทั้งชาติตะวันตก เช่น โปรตุเกส สเปน ดัตช์ (ฮอลันดา) และฝรั่งเศส ซึ่งในช่วงเวลาหนึ่งเคยสามารถขยายอาณาเขตประเทศราชถึงรัฐฉานของพม่า อาณาจักรล้านนา มณฑลยูนนาน อาณาจักรล้านช้าง อาณาจักรขอม และคาบสมุทรมลายูในปัจจุบัน



พระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยา มี 5 ราชวงศ์ คือ

ราชวงศ์อู่ทอง มีกษัตริย์ 3 พระองค์
ราชวงศ์สุพรรณภูมิ มีกษัตริย์ 13 พระองค์
ราชวงศ์สุโขทัย มีกษัตริย์ 7 พระองค์
ราชวงศ์ปราสาททอง มีกษัตริย์ 4 พระองค์
ราชวงศ์บ้านพลูหลวง มีกษัตริย์ 6 พระองค์
รวมมีพระมหากษัตริย์ทั้งสิ้น 33 พระองค์

๑. สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (อู่ทอง) (พ.ศ. ๑๘๙๓-๑๙๑๒) Somdet Phra Ramathipbodi I (U-thong)
๒. สมเด็จพระราเมศวร (ครั้งที่ ๑)๒ (พ.ศ. ๑๙๑๒-๑๙๑๓) Somdet Phra Ramesuan
๓. สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑ (ขุนหลวงพะงั่ว) (พ.ศ. ๑๙๑๓-๑๙๓๑) Somdet Phra Borommarachathirat I (Khunluang Pha-ngua)
๔. สมเด็จพระเจ้าทองลัน (พ.ศ. ๑๙๓๑) Somdet Phrachao Thonglan
สมเด็จพระราเมศวร (ครั้งที่ ๒)* (พ.ศ. ๑๙๓๑-๑๙๓๘) Somdet Phra Ramesuan
๕. สมเด็จพระรามราชาธิราช (พ.ศ. ๑๙๓๘-๑๙๕๒) Somdet Phra Ramrachathirat
๖. สมเด็จพระอินทราชา (เจ้านครอินทร์) (พ.ศ. ๑๙๕๒-๑๙๖๗) Somdet Phra Intharacha (Chao Nakhon-in)
๗. สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒ (เจ้าสามพระยา) (พ.ศ. ๑๙๖๗-๑๙๙๑) Somdet Phra Borommarachathirat II (Chao Sam Phraya)
๘. สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (พ.ศ. ๑๙๙๑-๒๐๓๑) Somdet Phra Borommatrailokkanat
๙. สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๓ (พ.ศ. ๒๐๓๑-๒๐๓๔) Somdet Phra Borommarachathirat III
๑๐. สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ (พ.ศ. ๒๐๓๔-๒๐๗๒) Somdet Phra Ramathipbodi II
๑๑. สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๔ (หน่อพุทธางกูร) (พ.ศ. ๒๐๗๒-๒๐๗๖) Somdet Phra Borommarachathirat IV (No-phutthangkun)
๑๒. พระรัษฎาธิราช (พ.ศ. ๒๐๗๖-๒๐๗๗) Phra Ratsadathirat
๑๓. สมเด็จพระไชยราชาธิราช (พ.ศ. ๒๐๗๗-๒๐๘๙) Somdet Phra Chairachathirat
๑๔. พระยอดฟ้า (พระแก้วฟ้า) (พ.ศ. ๒๐๘๙-๒๐๙๑) Phra Yotfa (Phra Kaeofa)
ขุนวรวงศาธิราช (พ.ศ. ๒๐๙๑) Khun Worawongsathirat
๑๕. สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ (พ.ศ. ๒๐๙๑-๒๑๑๑) Somdet Phra Maha Chakkraphat
๑๖. สมเด็จพระมหินทราธิราช (พ.ศ. ๒๑๑๑-๒๑๑๒) Somdet Phra Mahintharathirat
๑๗. สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช (พ.ศ. ๒๑๑๒-๒๑๓๓) Somdet Phra Maha Thammarachathirat
๑๘. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พ.ศ. ๒๑๓๓-๒๑๔๘) Somdet Phra Naresuan Maharat
๑๙. สมเด็จพระเอกาทศรถ (พ.ศ. ๒๑๔๘-๒๑๕๓) Somdet Phra E-kathotsarot
๒๐. พระศรีเสาวภาคย์ (พ.ศ. ๒๑๕๓-๒๑๕๔) Phra Sisaowaphak
๒๑. สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (พ.ศ. ๒๑๕๔-๒๑๗๑) Somdet Phrachao Songtham
๒๒. สมเด็จพระเชษฐาธิราช (พ.ศ. ๒๑๗๑-๒๑๗๒) Somdet Phra Chetthathirat
๒๓. พระอาทิตยวงศ์ (พ.ศ. ๒๑๗๒) Phra A-thittayawong
๒๔. สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ. ๒๑๗๒-๒๑๙๙) Somdet Phrachao Prasatthong
๒๕. สมเด็จเจ้าฟ้าไชย (พ.ศ. ๒๑๙๙) Somdet Chaofa Chai
๒๖. สมเด็จพระศรีสุธรรมราชา (พ.ศ. ๒๑๙๙) Somdet Phra Sisuthammaracha
๒๗. สมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. ๒๑๙๙-๒๒๓๑) Somdet Phra Narai Maharat
๒๘. สมเด็จพระเพทราชา (พ.ศ. ๒๒๓๑-๒๒๔๖) Somdet Phra Phetracha
๒๙. สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๘ (พระเจ้าเสือ) (พ.ศ. ๒๒๔๖-๒๒๕๑) Somdet Phra Sanphet VIII (Phrachao Suea)
๓๐. สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๙ (พระเจ้าท้ายสระ) (พ.ศ. ๒๒๕๑-๒๒๗๕) Somdet Phra Sanphet IX (Phrachao Thaisa)
๓๑. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (พ.ศ. ๒๒๗๕-๒๓๐๑) Somdet Phrachaoyuhua Borommakot
๓๒. สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร (ขุนหลวงหาวัด) (พ.ศ. ๒๓๐๑) Somdet Phrachao U-thumphon (Khunluang Hawat)
๓๓. สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อัมรินทร์ (พระเจ้าเอกทัศ) (พ.ศ. ๒๓๐๑-๒๓๑๐) Somdet Phra Thinang Suriyat Ammarin (Phrachao Ekkathat)

ขอบคุณเครดิต http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=968
ขอบคุณเครดิต
http://th.wikipedia.org/wiki/อาณาจักรอยุธยา

วันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

นายพล Dietrich von Choltitz นายพลเยอรมันผู้ที่ช่วยไม่ให้กรุงปารีสถูกทำลาย ในสงครามโลกครั้งที่2

กรุงปารีสยังสวยงามจนถึงทุกวันนี้ทั้งที่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 เมืองต่างๆ ตั้งพังพินาศ ช่วงต้นสงครามกรุงปารีส รอดจากการบุกทำลายของกองทัพ นาซีเยอรมันของ ฮิลเลอร์ผู้นำของเยอรมัน เพราะด้วยฝ่ายฝรั่งเศสปล่อยให้เมือง โดนยึดง่ายๆแบบไม่มีใครป้องกัน และฮิตเลอร์ยังชื่นชอบความสวยงามและงานศิลปะต่างที่อยู่ใน ฝรั่งเศสจึง เก็บเมืองแห่งนี้ไว้ให้สวยงาม

หลังจากที่ฝ่ายสัมพันธมิตรได้บุกยกพลขึ้นบกที่นอร์มังดี สถานนะการณ์สงครามก็เปลี่ยนไป กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตร ได้ชับไล่กองทัพเยอรมัน ออกจากยุโรป เยอรมันกลับไม่ได้เอากรุงปารีสเป็นที่ตั้งรับ เพราะต้องถอดกำลังไปปกป้องอาณาจักรไรซ์ที่ 3
เมื่อสงครามมาถึงปารีส ฮิตเลอร์ ผู้ไม่ยอมเสียสิ่งใดให้ใคร ได้สั่ง ให้พระเองของงาน ท่านนายพล Dietrich von Choltitz ให้ระเบิดทำลาย กรุงปารีสของฝรั่งเศสให้ย่อยยับ พินาศไปเสีย อย่าให้มีอะไรหลงเหลือแก่ศัตรู แต่ทว่า ท่านนายพล Dietrich von Choltitz ได้ขัดคำสั่งของฮิตเลอร์และไม่ได้ทำลายกรุงปารีสแต่อย่างใด เนื่องจากสาเหตุได้ ก็เดากันไม่ถูก ว่ากันว่าเขาไม่อยากทำลายเมืองอันสวยงามนี้ หรือว่าไม่อยากเสียระเบิดแม้แต่ ตันเดียวในการทำลาย เมืองเมืองหนึ่งเท่านั้น
หลังจบสงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมันเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ท่านนายพล Dietrich von Choltitz ได้ใช้คำสั่งของฮิตเล่อร์ที่สั่งทำลายปารีส มาเป็นเครื่องต่อรองกับ ฝ่ายสัมพันธมิตรและลงนามในการรับสภาพแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข

ด้วยเหตุนี้เอง ท่านายพล Dietrich von Choltitz และเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชา จึงรอดโทษประหารในศาลนูเรมเบอร์ค และถูกขังคุกอยู่2ปี ถูกปล่อยตัวในปี 1947
และได้ใช้ชีวิตอยู่มาจนถึงแก่กรรมในปี 1966
นาฬิกาทหารสวยๆ 390บาท สนใจคลิ๊กรูปหรือลิ๊งได้เลยคับ  https://goo.gl/DNifLi